ข้อควรระวังก่อนซื้อบ้านปี 2569

53 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ข้อควรระวังก่อนซื้อบ้านปี 2569

ก่อนอื่นเลยหลายคนอาจจะกำลังคิดซื้อบ้าน ซื้อทาวน์เฮ้าส์ / ทาวน์โฮม หรือซื้อคอนโดในช่วงนี้ เพราะมีโปรโมชั่นดี ๆ ออกมา
กระตุ้นการตัดสินใจ แต่การจะซื้อที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน และไม่ว่าจะเป็นการซื้อในช่วงนี้หรือช่วงเวลาหลังจากนี้
มีสิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นหลายด้าน โดยเฉพาะ 5 ข้อต้องคิดดังต่อไปนี้ ก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน
 
 
1. มีความพร้อมทางด้านการเงิน
อย่างที่กล่าวไปในตอนต้น แม้ว่าในช่วงนี้ที่อยู่อาศัยจะลดราคาและน่าซื้อ จนเรียกได้ว่าเป็น "โอกาสทอง" ของผู้ซื้อเลยก็ว่าได้ แต่ก็ใช่ว่าจะรีบด่วนตัดสินใจ เพราะโอกาสทองนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีความพร้อมทางด้านการเงินเท่านั้น
ดังนั้น ผู้ซื้อควรประเมินความพร้อมของตัวเองก่อน โดยเฉพาะความพร้อมทางด้านการเงิน ลองประมาณการใช้จ่ายของตัวเองในแต่ละเดือน รวมถึงภาระหนี้สินที่ถือครองอยู่ หากมีหนี้สินต่าง ๆ อยู่แล้ว เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อรถยนต์ ฯลฯ ยิ่งต้องระมัดระวังการใช้จ่าย
โดยไม่ควรมีหนี้สินเกิน 40% ของรายได้ เพราะนั่นหมายความว่าคุณเองมีเกณฑ์สุ่มเสี่ยงที่จะไม่สามารถชำระหนี้ได้ในอนาคต รวมทั้งยังมีโอกาสน้อยที่ธนาคารต่าง ๆ จะอนุมัติการขอกู้สินเชื่อบ้านของคุณ
นอกจากมีความพร้อมทางด้านการเงินแล้ว ยังต้องมีความมั่นคงทางการเงิน ต้องมั่นใจว่าคุณจะไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เสี่ยงตกงาน หรือถูกลดเงินเดือน
 
2. มีเงินออม และเงินสำรองยามฉุกเฉิน
แม้ที่อยู่อาศัยจะหั่นราคา แต่อย่าเพิ่งรีบร้อน เพราะนอกจากเรื่องของความพร้อมทางด้านการเงินแล้ว ควรจะต้องมีเงินออมไว้ส่วนหนึ่ง เพราะนอกจากราคาที่อยู่อาศัย ยังต้องเตรียมเงินออมอีกส่วนหนึ่งไว้จ่ายค่าอื่น ๆ อาทิ ค่าจอง ค่าธรรมเนียมการโอน ค่าจดจำนอง ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ต้องชำระเป็นเงินสด อาทิ
– ค่าจดจำนอง 1% ของมูลค่าที่จำนอง (จำนวนเงินกู้ทั้งหมด)
– ค่าธรรมเนียมการโอน 2% ของราคาประเมินหรือราคาขาย
– ค่าอากร 0.5% ของราคาซื้อขาย

ค่าใช้จ่ายในการโอนบ้าน
เช็ก 10 ค่าใช้จ่ายในการโอนบ้าน ที่ดิน และคอนโด
นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องหลังจากซื้อบ้านเรียบร้อยแล้ว ได้แก่ ค่าส่วนกลาง ซึ่งบ้านหรือคอนโดบางโครงการจะเก็บล่วงหน้า 1 ปี ค่าประกันอัคคีภัย คุ้มครองความปลอดภัยของตัวบ้าน 0.1% ของราคาที่อยู่อาศัย ยังไม่นับรวมค่าตกแต่ง ที่ถึงแม้ว่าหลายโครงการจะสมนาคุณด้วยเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งครบ หิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย แต่เชื่อเถอะว่าเมื่ออยู่อาศัยจริง หลายคนก็คงอยากตกแต่งเพิ่มเติม
หมายเหตุ: รู้หรือไม่ว่ามาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV ใหม่ ผู้ซื้อบ้านหลังแรกราคาไม่เกิน 10 บาท กู้เพิ่มได้อีก 10% เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งบ้าน
 
3. ทำเลที่ตั้งต้องตอบโจทย์การอยู่อาศัย
ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการพิจาณาเลือกซื้อบ้านเดี่ยว ซื้อทาวน์เฮ้าส์ / ทาวน์โฮม หรือซื้อคอนโด ซึ่งแต่ละคนก็มีเหตุผลในการตัดสินใจเลือกทำเลที่แตกต่างกันออกไป ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองเป็นหลัก เช่น ความคุ้นเคย ใกล้ที่ทำงาน
ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก หรือเดินทางสะดวก เข้า-ออกได้หลายเส้นทาง ใกล้ทางด่วน ใกล้รถไฟฟ้า
นอกจากนั้นหากต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนระยะสั้นหรือลงทุนระยะยาว คงต้องมองให้ครบทุกมุม เพราะไม่ใช่ทุกทำเลจะเหมาะกับการลงทุนได้
การเลือกทำเลจึงต้องศึกษาและสำรวจความต้องการของตลาดและกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก ปัจจัยหลักก็คงหนีไม่พ้นเรื่องความสะดวกในการเดินทาง เช่น เป็นคอนโดใกล้รถไฟฟ้า หรือสะดวกในการใช้ชีวิต เช่น ใกล้ตลาดสดหรือซุปเปอร์มาร์เก็ต ใกล้แหล่งท่องเที่ยว แหล่งพักผ่อน ใกล้แหล่งงาน สถานศึกษา โรงพยาบาล ซึ่งจะทำให้สามารถกำหนดราคาค่าเช่าและราคาขายที่ได้ผลตอบแทนสูง
 
4. รูปแบบโครงการ
แม้จะมีรูปแบบโครงการให้เลือกหลากหลาย แต่การเลือกรูปแบบโครงการในปัจจุบันและต่อจากนี้ไป นอกจากความชอบ
และตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแล้ว คงต้องมองถึงการใช้ชีวิตในยุคที่เราอาจจะได้ใช้ชีวิตอยู่ติดบ้านมากขึ้น
ดังนั้นในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน คงต้องดูว่าผู้ประกอบการรายนั้น ๆ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับการอยู่อาศัยทั้งในวันนี้และอนาคตด้วย เช่น
– จำนวนยูนิตที่ไม่แออัดจนเกินไป
– พื้นที่ส่วนกลางที่เป็นสัดส่วนมากขึ้น เช่น มีพื้นที่ Co-working Space หรือ Co-kitchen
– มีสัญญาณ Wi-Fi ให้บริการในหลาย ๆ พื้นที่ เพื่อเอื้อต่อการทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home
– มีมาตรการดูแลความสะอาด ป้องกันเชื้อโรค แม้จะไม่มีการะบาดของโรคก็ตาม
 
5. รูปแบบห้อง-รูปแบบบ้าน
 จากรูปแบบโครงการ ก็ต้องเจาะลึกถึงพื้นที่ภายในห้องด้วย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ หรือคอนโดต้องรองรับการใช้ชีวิตที่ต้องอยู่กับบ้านได้ด้วย เพราะฉะนั้นจากเดิมที่มักให้ความสำคัญกับห้องนอน หรือห้องครัว อาจต้องให้ความสำคัญกับห้องนั่งเล่น หรือห้องทำงานมากขึ้น
หากเป็นคอนโด การพิจารณาแปลนห้องก็มีส่วนสำคัญ ส่วนใหญ่มักจะมีให้แปลนห้องให้เลือกทั้งแบบเปิดโล่ง
และแบบกั้นเป็นสัดส่วน ผู้ซื้อควรเลือกให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เช่น หากชอบทำอาหารกินเอง ก็ควรเลือกห้อง
ที่มีการกั้นห้องครัวเป็นสัดส่วน
 
 
 
เครดิตเว็บไซต์
 https://www.ddproperty.com/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2/5-%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-27775
 
#ตรวจบ้าน #ตรวจคอนโด #ตรวจบ้านก่อนโอน #บริษัทรับตรวจบ้าน #บริษัทตรวจบ้าน #บริษัทรับตรวจบ้านPANTIP #ตรวจบ้านเจ้าไหนดี #ตรวจคอนโดเจ้าไหนดี #ตรวจคอนโดบริษัทไหนดี #ตรวจคอนโดกรุงเทพ #ตรวจบ้านราคา #ตรวจบ้านก่อนโอนราคา #จ้างตรวจบ้าน #จ้างตรวจคอนโด #Checklistตรวจบ้าน #Checklistตรวจคอนโด
 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้