ติดเครดิตบูโรแก้ยังไง ? ให้กลับมาใช้ได้อีกครั้ง ก่อนกู้ซื้อบ้าน
ไขข้อสงสัย อยากซื้อบ้าน แต่ติดบูโร…แก้ยังไง ?
อยากซื้อบ้านสักหลัง แต่ติดบูโร แก้ยังไง ? เชื่อว่าหลายคนที่กำลังเจอปัญหานี้อยู่ จากประวัติทางการเงินที่เรียกกันว่า
“ติดเครดิตบูโร” และ “ติดแบล็คลิสต์” บทความนี้ จะช่วยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเครดิตบูโร พร้อมแนะนำแนวทางแก้ไขปัญหา
เพื่อให้คุณสามารถกลับมากู้ซื้อบ้านสำเร็จอย่างมั่นใจ
ติดปัญหา "เครดิตบูโร" จนกังวลว่าจะกู้ไม่ผ่าน ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ หากมีความรู้และเข้าใจอย่างถูกต้อง
1. ทำความเข้าใจ เครดิตบูโรคืออะไร ทำไมถึงติดบูโร ?
เครดิตบูโร คือบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ที่มีหน้าคอยรวบรวมประวัติการชำระหนี้ของบุคคลจากสถาบันการเงินต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้าน รถยนต์ บัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาสินเชื่อของธนาคาร
โดยสาเหตุที่ทำให้ติดบูโรส่วนใหญ่มักเกิดจากพฤติกรรมการชำระหนี้ที่ไม่ตรงเวลา หรือผิดนัดชำระหนี้ อาทิเช่น
- ชำระหนี้ล่าช้าเกินกำหนด
- ผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิต หรือสินเชื่อต่างๆ
- ค้างชำระค่างวดรถ
- ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจากการผิดนัดชำระหนี้
2. ติดแบล็คลิสต์แตกต่างจากติดบูโรหรือไม่
หลายคนมักเข้าใจผิดว่า “ติดแบล็คลิสต์” เหมือนกับ “ติดเครดิตบูโร” แต่ความจริงแล้วมีส่วนที่แตกต่างกัน ดังนี้
- ติดเครดิตบูโร หมายถึง การมีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ดี ซึ่งถูกบันทึกไว้ที่บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ
โดยข้อมูลนี้จะถูกใช้ประกอบการพิจารณาสินเชื่อโดยสถาบันการเงินต่างๆ
- ติดแบล็คลิสต์ หมายถึง การถูกขึ้นบัญชีดำจากสถาบันการเงินจากพฤติกรรมการชำระหนี้ที่ไม่ดี เช่น จ่ายล่าช้าเป็นประจำ
ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ซึ่งข้อมูลแบล็คลิสต์จะถูกแชร์ในระบบของธนาคาร จึงทำให้ถูกปฏิเสธการขอสินเชื่อได้
3. ติดบูโร ติดแบล็คลิส แก้ยังไงให้กลับมาใช้ได้อีกครั้ง ?
เครดิตบูโรถือเป็นข้อมูลทางการเงินที่สำคัญ เพราะสามารถส่งผลต่อการขอสินเชื่อกับธนาคารต่างๆ ได้ในอนาคต
เมื่อเกิดปัญหาจึงส่งผลให้หลายคนเกิดความกังวล และเกิดเป็นคำถาม ติดแบล็คลิส ติดบูโร แก้ยังไง? แต่แม้จะดูเป็นเรื่องใหญ่
ก็ยังมีวิธีแก้ไข! ดังนี้
- ชำระหนี้คงค้างทั้งหมด โดยเริ่มจากติดต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้ที่มียอดค้างชำระอยู่ เพื่อแจ้งความประสงค์ในการขอชำระหนี้ทั้งหมด โดยหากมียอดหนี้หลายแห่ง ควรจัดลำดับความสำคัญโดยเริ่มจากเจ้าหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน
- รอล้างประวัติเครดิตบูโร โดยเครดิตบูโรจะแสดงประวัติสินเชื่อย้อนหลัง 3 ปี หากปิดหนี้ทั้งหมดและไม่มีการใช้สินเชื่อเพิ่มเติม ข้อมูลจะค่อยๆ หายไปจากรายงานเมื่อครบ 36 เดือน ดังนั้น การรักษาประวัติทางการเงินให้ดีในระหว่างนี้
และไม่สร้างภาระหนี้เพิ่มเติมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
- เจรจาประนอมหนี้ ในกรณีที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้เต็มจำนวน แนะนำให้ติดต่อสถาบันการเงินเพื่อเจรจาต่อรองยอดหนี้
โดยอาจเสนอแผนการชำระแบบผ่อนจ่าย และเมื่อตกลงกันได้แล้ว ควรปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดอย่างเคร่งครัด
วิธีเช็กเครดิตบูโรง่ายๆ ด้วยตัวเอง
การตรวจสอบเครดิตบูโรเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถเช็กเครดิตบูโรง่ายๆ
ได้ด้วยตัวผ่านช่องทางต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ตรวจสอบผ่านศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ตาม พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ. 2545 มาตรา 25 กำหนดให้ผู้มีสิทธิสามารถตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตัวเองได้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถให้คำแนะนำและช่วยตอบคำถาม ‘ติดบูโร แก้ยังไง’
ได้อีกด้วย โดยสามารถตรวจสอบศูนย์
- ตรวจเครดิตบูโรได้ที่เว็บไซต์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ตรวจสอบผ่านทางธนาคาร สำหรับการเช็กเครดิตบูโรที่ธนาคาร
เจ้าของข้อมูลต้องไปยื่นคำร้องด้วยตัวเองผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารต่างๆ ทั่วประเทศ จากนั้นทางธนาคารจะเป็นตัวแทนของเครดิตบูโรในการตรวจสอบข้อมูล และส่งข้อมูลเครดิตให้ผ่านทางไปรษณีย์ภายใน 1 สัปดาห์ นับจากวันที่ยื่นคำร้อง
- ตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชัน นอกจากไปเช็กเครดิตบูโรได้ที่ธนาคารแล้ว ในปัจจุบันยังสามารถเช็กผ่านแอปพลิเคชัน
ของธนาคารต่างๆ โดยจะมีการส่งรายงานมาในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (NCB e-Credit Report) ที่สะดวกและรวดเร็ว
ข้อควรรู้! ไม่อยากเสียเครดิตบูโรควรทำอย่างไร
ส่วนสำคัญในการสร้างประวัติเครดิตบูโรที่ดี ล้วนเริ่มต้นจากการมีวินัยทางการเงิน ดังนี้
- ชำระหนี้ตรงเวลา ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อต่างๆ หรือค่างวดรถ ควรชำระให้ตรงเวลา
- ควบคุมการใช้จ่าย วางแผนการใช้จ่ายอย่างมีระบบ หลีกเลี่ยงการสร้างหนี้เกินตัว
- ตรวจสอบเครดิตบูโรสม่ำเสมอ เพื่อติดตามสถานะทางการเงิน และแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที
- รักษาวินัยทางการเงิน โดยการไม่สร้างภาระหนี้สินให้เพิ่มขึ้น และควรจัดการรายรับ-รายจ่ายอย่างรอบคอบ
การเตรียมความพร้อมด้านเครดิตบูโร เป็นก้าวสำคัญสู่การมีบ้านในฝัน หากคุณมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี
ก็หมดห่วงเรื่องกู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน และเพื่อเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อให้ผ่านฉลุย!
ควรเตรียมเอกสารประกอบการขอสินเชื่อให้พร้อม เพื่อแสดงรายได้ที่มั่นคง และเลือกบ้านในราคาที่เหมาะสม
กับความสามารถในการผ่อนชำระ เท่านี้ความฝันที่จะมีบ้านก็ไม่ไกลเกินเอื้อม
#ตรวจบ้าน #ตรวจคอนโด #ตรวจบ้านก่อนโอน #บริษัทรับตรวจบ้าน #บริษัทตรวจบ้าน #บริษัทรับตรวจบ้านPANTIP #ตรวจบ้านเจ้าไหนดี #ตรวจคอนโดเจ้าไหนดี #ตรวจคอนโดบริษัทไหนดี #ตรวจคอนโดกรุงเทพ #ตรวจบ้านราคา #ตรวจบ้านก่อนโอนราคา #จ้างตรวจบ้าน #จ้างตรวจคอนโด #Checklistตรวจบ้าน #Checklistตรวจคอนโด