ผนังเบาคืออะไร?เหมาะกับห้องแบบไหนบ้าง

52 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ผนังเบาคืออะไร?เหมาะกับห้องแบบไหนบ้าง

ผนังเบาคืออะไร ทำด้วยวัสดุแบบไหน เหมาะกับห้องแบบไหนบ้าง
 
 การกั้นห้องหรือการแบ่งโซนภายในอาคาร ไม่จำเป็นต้องทำด้วยวิธีก่ออิฐฉาบปูนเสมอไป เพราะในปัจจุบันเทรนด์การใช้ระบบผนังเบา ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยให้การต่อเติมห้องง่ายมากขึ้น โดยไม่กระทบต่อโครงสร้างหลักของบ้านหรืออาคารให้ยุ่งยาก
ช่วยเติมเต็มการออกแบบและตกแต่งภายในให้มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ไอเดียได้ไม่จำกัด
แต่คุณรู้หรือไม่ว่าผนังเบาที่ว่านี้คืออะไร ทำจากวัสดุอะไรบ้าง และเหมาะกับห้องประเภทไหน 


ผนังเบาคืออะไร

ผนังเบา (Lightweight Wall) คือ ระบบผนังที่ใช้วัสดุน้ำหนักเบาในการก่อสร้าง ประกอบด้วยโครงคร่าวเหล็กชุบสังกะสีหรืออะลูมิเนียม และแผ่นวัสดุปิดผิว เช่น แผ่นยิปซัม แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ หรือแผ่นไม้สังเคราะห์ ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าผนังก่ออิฐฉาบปูนทั่วไปหลายเท่า ติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถรื้อถอนหรือดัดแปลงได้ง่าย ๆ ทำให้เหมาะกับการใช้งานในอาคารสมัยใหม่
ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนพื้นที่

นอกจากนี้ ผนังเบายังมีคุณสมบัติในการกันความร้อนและดูดซับเสียงได้ดี แต่ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุที่เลือกใช้ด้วยเช่นกัน
บางประเภทยังสามารถทนไฟและทนน้ำได้ในระดับเหมาะสม ทำให้ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน หรือโรงแรม และด้วยน้ำหนักที่น้อยกว่า ผนังเบาจึงช่วยลดภาระน้ำหนักที่กดทับลงบนโครงสร้างอาคาร
ทำให้สามารถออกแบบอาคารให้มีความสูงหรือขนาดใหญ่ขึ้นได้ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดของเสาหรือคาน


ผนังเบาเหมาะกับงานตกแต่งภายในแบบไหน

ผนังเบาเหมาะสำหรับการใช้กั้นห้องภายในอาคาร โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน
เช่น อาคารสำนักงาน โรงแรม หรือบ้านพักอาศัยที่ต้องการแบ่งพื้นที่ใช้สอยอย่างการกั้นห้องนอน ห้องทำงาน หรือห้องอเนกประสงค์ โดยสามารถเลือกวัสดุที่มีคุณสมบัติกันเสียงได้ดีเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว

ประเภทของผนังเบาแบ่งตามวัสดุที่ใช้

ผนังเบาสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักตามวัสดุที่ใช้ ได้แก่ ผนังเบาจากแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ ผนังเบาจากแผ่นยิปซัม
และผนังเบาจากแผ่นไม้สังเคราะห์ แต่ละประเภทมีจุดเด่นและการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

ผนังเบาจากแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์

ผนังเบาจากแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมีความแข็งแรงทนทาน ทนน้ำ
และทนไฟได้ดี หนึ่งในผลิตภัณฑ์ชั้นนำในตลาดคือ แผ่นสมาร์ทบอร์ดจากเอสซีจี ซึ่งผลิตจากปูนซีเมนต์ผสมเส้นใยเซลลูโลส ทำให้มีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อแรงกระแทก และสามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร
แผ่นสมาร์ทบอร์ดมีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถกันน้ำได้ 100% จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในห้องน้ำหรือพื้นที่เปียกชื้น
นอกจากนี้ยังทนต่อความร้อนและการลามไฟ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับอาคาร ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายนี้ ทำให้แผ่นสมาร์ทบอร์ดเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับการสร้างผนังเบาในทุกพื้นที่ของบ้าน

ผนังเบาจากแผ่นยิปซัม

ผนังเบาจากแผ่นยิปซัมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมสำหรับการกั้นห้องภายในอาคาร ด้วยคุณสมบัติที่เด่นชัดในด้านการกันเสียง
และความร้อน แผ่นยิปซัมผลิตจากแร่ยิปซัมธรรมชาติ ทำให้มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง
ข้อดีของผนังยิปซัมคือการติดตั้งที่รวดเร็วและง่ายดาย สามารถตกแต่งผิวได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการทาสี
ติดวอลล์เปเปอร์ หรือสร้างลวดลายนูนต่ำ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติในการควบคุมความชื้นในอากาศ
ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ภายในบ้าน แต่ผนังยิปซัมอาจไม่เหมาะกับบริเวณที่มีความชื้นสูงหรือสัมผัสน้ำโดยตรง
เว้นแต่จะเป็นแผ่นยิปซัมชนิดพิเศษที่ผลิตมาเพื่อทนความชื้นโดยเฉพาะ

ผนังเบาจากแผ่นไม้สังเคราะห์

ผนังเบาจากแผ่นไม้สังเคราะห์เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติของไม้
แผ่นไม้สังเคราะห์ผลิตจากเศษไม้หรือเส้นใยไม้ผสมกับสารยึดเกาะ ทำให้มีลักษณะคล้ายไม้จริงแต่มีน้ำหนักเบากว่า
ข้อดีของผนังไม้สังเคราะห์คือความสวยงามที่เลียนแบบไม้ธรรมชาติได้อย่างใกล้เคียง สามารถเลือกสีและลายไม้ได้หลากหลาย
ทำให้เหมาะกับการตกแต่งภายในที่ต้องการความอบอุ่นหรือสไตล์ร่วมสมัย นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติในการกันเสียงและความร้อน
ได้ดี แต่ผนังไม้สังเคราะห์อาจไม่ทนต่อความชื้นเท่ากับวัสดุอื่น ๆ และอาจต้องการการดูแลรักษามากกว่า
เช่น การทาสีหรือเคลือบผิวเป็นระยะเพื่อรักษาความสวยงาม

ข้อดีและข้อจำกัดของผนังเบา

การเลือกใช้ผนังเบาในการก่อสร้างหรือตกแต่งภายใน มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่ควรพิจารณาตามชนิดของวัสดุที่เลือกใช้ โดยสามารถแบ่งออกได้ดังนี้

 
ข้อดีของผนังเบา

- น้ำหนักเบา ช่วยลดภาระน้ำหนักบนโครงสร้างอาคาร ทำให้สามารถออกแบบอาคารให้สูงหรือใหญ่ขึ้นได้โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดของเสาหรือคาน

- ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว สามารถติดตั้งได้เร็วกว่าผนังก่ออิฐฉาบปูนแบบดั้งเดิม ช่วยลดระยะเวลาและขั้นตอนในการก่อสร้าง

- มีความยืดหยุ่นในการดัดแปลง สามารถรื้อถอนหรือดัดแปลงได้ง่ายในภายหลัง
เหมาะสำหรับอาคารที่ต้องการปรับเปลี่ยนพื้นที่บ่อย ๆ

- กันความร้อนและดูดซับเสียงได้ดี ขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุที่เลือกใช้ แต่โดยทั่วไปแล้วผนังเบาสามารถกันความร้อน
และเสียงได้ดีกว่าผนังทั่วไป

- ประหยัดพื้นที่ ผนังเบามีความหนาน้อยกว่าผนังก่ออิฐ ทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยมากขึ้น
 
ข้อจำกัดของผนังเบา

- ความแข็งแรง แม้จะแข็งแรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่อาจไม่เหมาะกับการรับน้ำหนักมาก ๆ เช่น การแขวนของหนัก

- ความทนทานต่อแรงกระแทก ผนังเบาบางชนิดอาจเกิดรอยบุบหรือแตกร้าวได้ง่ายเมื่อถูกกระแทกแรง ๆ
จึงต้องระมัดระวังในการใช้งาน

- ข้อจำกัดในการใช้งานบางพื้นที่ ผนังเบาบางประเภทอาจไม่เหมาะกับพื้นที่เปียกชื้นหรือภายนอกอาคาร
จึงต้องเลือกใช้วัสดุที่มีฟังก์ชันการใช้งานให้เหมาะสม

ติดตั้งผนังเบา จำเป็นต้องมีคานรองรับไหม และใช้โครงสร้างแบบใด

การติดตั้งผนังเบาโดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องมีคานรองรับเหมือนกับผนังก่ออิฐ เนื่องจากน้ำหนักที่เบากว่ามาก อย่างไรก็ตาม
การติดตั้งจะต้องมีโครงสร้างที่แข็งแรงเพียงพอเพื่อรองรับน้ำหนักของผนังและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จะติดตั้งบนผนัง

โครงสร้างที่นิยมใช้สำหรับผนังเบามีดังนี้

- โครงคร่าวเหล็กชุบสังกะสี เป็นโครงสร้างที่นิยมมากที่สุด มีน้ำหนักเบา แข็งแรง และทนต่อการเกิดสนิม
- โครงอะลูมิเนียม มีน้ำหนักเบามาก แต่อาจมีราคาสูงกว่าโครงเหล็ก
- โครงไม้ ใช้ในบางกรณี โดยเฉพาะในงานตกแต่งภายในที่ต้องการความรู้สึกอบอุ่นแบบธรรมชาติ

การติดตั้งจะเริ่มจากการยึดโครงคร่าวกับพื้น เพดาน และผนังด้านข้าง จากนั้นจึงติดตั้งแผ่นผนังเบาเข้ากับโครงคร่าว โดยอาจใช้วิธีขันสกรูหรือยิงตะปู ขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุ สำหรับผนังเบาที่ต้องรับน้ำหนักมาก เช่น ชั้นวางทีวีหรือตู้แขวน
อาจต้องเสริมโครงเหล็กพิเศษหรือใช้พุกรับน้ำหนักโดยเฉพาะ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและความแข็งแรง

ดูแลรักษาผนังเบาอย่างไรให้ใช้งานได้ยาวนาน

1. ทำความสะอาดเป็นประจำ เช็ดฝุ่นและทำความสะอาดผนังด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ หรือน้ำยาทำความสะอาดอ่อน ๆ

2. ตรวจสอบรอยแตกร้าว หมั่นตรวจดูรอยแตกร้าวหรือรอยต่อที่แยกออกจากกัน หากพบให้รีบซ่อมแซมทันที

3. ระวังเรื่องความชื้น หลีกเลี่ยงไม่ให้ผนังเบาสัมผัสกับน้ำหรือความชื้นสูงเป็นเวลานาน โดยเฉพาะผนังที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อทนน้ำ

4. ทาสีใหม่เป็นระยะ การทาสีใหม่นอกจากจะช่วยรักษาความสวยงามแล้ว ยังช่วยปกป้องผิวผนังจากความชื้นและรอยขีดข่วนได้

5. ระวังในการติดตั้งอุปกรณ์ เมื่อต้องการติดตั้งชั้นวางของหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ให้ใช้อุปกรณ์ยึดที่เหมาะสมกับชนิดของผนังเบา

 6. ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น พยายามรักษาอุณหภูมิและความชื้นภายในห้องให้คงที่
เพื่อป้องกันการขยายตัวและหดตัวของวัสดุสรุปเกี่ยวกับผนังเบา

 



 
 
 
#ตรวจบ้าน #ตรวจคอนโด #ตรวจบ้านก่อนโอน #บริษัทรับตรวจบ้าน #บริษัทตรวจบ้าน #บริษัทรับตรวจบ้านPANTIP #ตรวจบ้านเจ้าไหนดี #ตรวจคอนโดเจ้าไหนดี #ตรวจคอนโดบริษัทไหนดี #ตรวจคอนโดกรุงเทพ #ตรวจบ้านราคา #ตรวจบ้านก่อนโอนราคา #จ้างตรวจบ้าน #จ้างตรวจคอนโด #Checklistตรวจบ้าน #Checklistตรวจคอนโด
 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้